ตารางตะแนนพรีเมียร์ลีก ล่าสุด: สถิติสำหรับ พรีเมียร์ลีก ล่าสุด 2023-24

ตารางตะแนนพรีเมียร์ลีก สถิติสำหรับ พรีเมียร์ลีก ล่าสุด ติดตามผลคะแนนพรีเมียร์ลีก 2023-2024 ลำดับของ พรีเมียร์ลีก
ตารางบอล พรีเมียร์ลีก ผลบอลเมื่อคืน พรีเมียร์ลีก ผลบอลเมื่อคืน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ที่นี่

สถิติสำหรับ พรีเมียร์ลีก: คัมแบ็คหรือยัง? “โดมินิก โซโบซไล” อัปเดตความฟิต”กลับลงสนาม 11 ม.ค. 2567

คัมแบ็คหรือยัง? “โดมินิก โซโบซไล” อัปเดตความฟิต”กลับลงสนาม

ดาวกองกลางทีมชาติ ฮังการี”โดมินิก โซโบซไล” ได้มีโอกาสลงเล่นเกมลีกให้กับทาง ลิเวอร์พูล นัดสุดท้ายคือ นัดเปิดบ้าน พบ นิวคาสเซิ่ล 4-2 เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ด้วยปัญหาที่ทางเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง ทำให้ต้องเปลี่ยนตัวออก ในกลางเกมครึ่งหลัง ส่ง ‘ไรอัน กราเฟนแบร์ค’ ลงไปรับช่วงบู๊ต่อ
จากปัญหาอาการบาดเจ็บของอดีตขุนพลทีม แอร์เบ ไลป์ซิก ทำให้ ชวดลงบู๊ร่วมทัพหงส์แดง 2 เกมมาแล้ว ในนัดบุกไปทุบ อาร์เซน่อล ตกรอบ3 ศึกเอฟเอคัพ ผลการแข่งจบที่ 2-0 และนัด

เปิดบ้านเบียดแซงชนะ ฟูแล่ม 2-1 คาราบาวคัพ รอบรองชนะเลิศ ยกแรก เมื่อวันพุธที่เพิ่งผ่านมา ผลบอลเมื่อคืน พรีเมียร์ลีก
ล่าสุด นักแข้งหน้าหล่อได้รับรางวัล ‘นักกีฬาชายฮังการียอดเยี่ยมแห่งปี 2023 ‘เป็นสมัย2 อีกด้วย เขากลายเป็นนักเตะเพียงผู้เดียว ที่เคยได้รับรางวัล ‘นักกีฬาชายฮังการียอดเยี่ยมแห่งปี’

โดยส่วนมากรางวัลดังกล่าว มักจะเป็น นักกีฬาว่ายน้ำ, นักกรีฑา หรือ นักยิมนาสติก ที่ได้ครอง
“โซโบซไล” ได้พูดถึงโอกาสที่จะกลับลงสนาม พร้อมแจ้งให้กับแฟนบอลทั้งหลาย ได้ทราบทั่วกันอย่างชัดเจน
“ผมยังวิ่งโดยไม่มีบอล แต่อีกไม่นานผมจะซ้อมกับบอลได้ ผมดีขึ้นเรื่อยๆ” สตาร์ชาวฮังการีกล่าว

“ใช่ เป็นไปได้ว่าผมอาจลงสนามเกมเยือน บอร์นมัธ แต่เราไม่ต้องการที่จะเร่งรีบ ผมน่าจะพลาดเกมนี้อีกเกมก่อนกลับไปเล่นได้หากผมไม่เจ็บซ้ำ”
โซโบซไล ได้บอกอีกว่า พร้อมลงสนามเล่นในฝั่งด้านขวา แทน โม ซาลาห์ ที่กำลังทำหน้าที่ไปเล่นให้กับทีมชาติในขณะนี้ เพราะด้วยเหตุที่ว่า สมัยค้าแข้งใน บุนเดสลีกา ‘โซโบซไล’เอง ก็ได้รับหน้าที่ในพื้นที่เดียวกันนี้ให้กับ ไลป์ซิก

“มันเป็นคำถามว่าผมจะเล่นเป็นปีกขวาหรือเปล่า คำตอบของผมคือไม่ปิดกั้น ผมเล่นได้ในตำแหน่งที่จำเป็น” และทุกรายการที่ โซโบซไล ลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับ หงส์แดง ในซีซั่นนี้ มากที่สุดถึง 21เกม จาก 26 เกม เป็นแค่รองของ โม ซาลาห์ คนเดียวเท่านั้นที่มี 23 เกมยืนยัน
“พวกเรายังมิได้คุยกันถึงหัวข้อนี้ว่าผมจะแปรไปเล่นแทน โม ซาลาห์ ที่ผละไปจากกลุ่มหรือไม่ ปัจจุบันนี้สิ่งที่จำเป็นที่สุด คือผมสามารถกลับไปลงสู่สนามอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นได้”

“โม ซาลาห์ กับผมมีความเชื่อมโยงที่ดีต่อกัน เขาเป็นผู้ที่ถ่อมตน แต่ว่าแน่ๆ เขาทราบดีว่าเขาประสบผลสำเร็จในเกมบอลซึ่งเขาซึ่งเขาครองความยิ่งใหญ่”

“ถึงแบบนั้น เขาปฏิบัติกับชายหนุ่มหรือคนมาใหม่ในทางเดียวกับผู้อื่นในกลุ่ม ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ทุกคนเห็นว่าเขายอดเยี่ยมในนักฟุตบอลที่เยี่ยมที่สุดในโลก”

“เราได้เห็นกันชัดเจนอยู่แล้วว่าเขาคว้าโอกาสทำประตูได้อย่างสม่ำเสมอ และในเกมระดับอาชีพ มันเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าทุกสิ่ง”

สมาพันธ์ที่เคยเล่น

• ลิเวอร์พูล (2023-ปัจจุบัน)
• แอร์เบ ไลป์ซิก (2021-2023)
ลงเล่น 91 นัด ยิงได้ 21 ประตู 22 แอสซิสต์

• เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (2018-2021)
ลงเล่น 83 นัด ยิงได้ 26 ประตู 34 แอสซิสต์

• ไลเฟอริง (2017-2018)
ลงเล่น 42 นัด ยิงได้ 16 ประตู 11แอสซิสต์

• ทีมชาติฮังการี (2019-ปัจจุบัน)
ลงเล่น 32 นัด ยิงได้ 7 ประตู 2 แอสซิสต์

แชมป์ที่เคยได้รับ
• แอร์เบ ไลป์ซิก
เดเอ็ฟเบ-โพคาล 2 สมัย : (2021-22, 2022-23)

• เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก
ออสเตรียน บุนเดสลีกา 4 สมัย : (2017–18, 2018–19, 2019–20, 2020–21)

• ออสเตรียน คัพ 3 สมัย : (2018–19, 2019–20, 2020–21)

รางวัลส่วนตัวที่ได้รับ
• นักเตะยอดเยี่ยมออสเตรียน บุนเดสลีกา 1 สมัย : (2019-20)
• นักกีฬาชายฮังการียอดเยี่ยมแห่งปี 2023

สถิติสำหรับ พรีเมียร์ลีก: อยู่หมัด! 5เรื่องจริง ‘หงส์’ เขี่ย ‘ปืนใหญ่’ ร่วงเอฟเอคัพ

  ปฏิเสธไม่ได้จริงๆกับฟอร์มการเล่นของ อาร์เซน่อล ที่ช่วงหลังมานี้ผลงานการเล่นแผ่วลงอย่างเห็นได้ชัดและน่าใจหาย เพราะในเกมเมื่อคืนวันที่ 7 มกราคม ที่ผ่านมา อาร์เซน่อลเปิดบ้านแพ้ให้กับลิเวอร์พูลคารัง อย่าน่าเสียดาย ด้วยสกอร์ 2-0 ทำให้พลาดเข้ารอบ เอฟเอคัพ ไปเป็นที่เรียบร้อย โดยฟอร์มการเล่นในสนาม 90 นาที “ปืนใหญ่”ครองบอลเหนือกว่า ชัดเจนเลย และมีโอกาสล่าตาข่ายหลายต่อหลายครั้ง แต่ยังไงก็ไม่สามารถฝ่าหักปีก หงส์ ได้ แถมช่วงท้ายๆอาการแผ่วปลายกำเริบ โดนหงส์แดง สวนตาข่ายด้วยความเด็ดขาดคว้าชัยชนะอย่างเจ็บจี๊ด

  1. ปืนใหญ่ส่งตัว แรมสเดล ออกสตาร์ต

เซอร์ไพรส์ไม่น้อย มิเกล อาร์เตต้า ส่ง อารอน แรมสเดล เข้าไปรับบทนายทวาร แทน ดาบิด ราย่า จอมเฝ้าตาข่ายมือหนึ่ง และยังตัดสินใจ ใช้งาน รีส เนลสัน ลงสนามเป็นตัวจริง ก่อนหน้า เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ที่ต้องลงไปนั่งเป็นตัวสำรอง รวมๆแล้ว อาร์เซน่อล ที่ขาดกองหน้าทีมชาติบราซิลอย่าง กาเบรียล เชซุซ ที่เจ็บอยู่ เลยต้องปรับแผนใหม่ทั้งหมดจากเกมลีกที่ดวลแพ้ให้กับฟูแล่ม 2-1 ตัวจริงตำแหน่งสุดท้าย มิเกล อาร์เตต้า เลือกใช้งาน จอร์จินโญ่ แทน กาเบรียล มาร์ติเนลลี่

  1. หงส์ขาดกัปตัน ฟาน ไดค์

อาการป่วยของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ หัวหอกสุดแกร่งของหงส์แดงทำเอาสร้างปัญหาหนักใจให้กับทีมอยู่ไม่น้อย ส่งผลให้ จาเรลล์ ควานซาห์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ดาวเด่น จึงได้ร่วมผสานกับ อิบราฮิมา โกนาเต้ และ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เข้าเสียบแทน โดมินิก โซโบซไล ที่ยังบาดเจ็บ’ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์’แทนตำแหน่ง ‘โม ซาลาห์’ ที่มีหน้าที่ออกไปรับใช้ชาติ ในศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์อยู่ ส่วน โคกี้ กัคโป เสียบตำแหน่ง วาตารุ เอ็นโด ลาหงส์ไปร่วมรบในศึก เอเชี่ยนคัพ

จากโผ 11 นักแข้งสรุปว่า กุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนผู้เล่นตัวจริงสี่รายด้วยกัน จากเกมลีก นัดเปิดบ้านรับนิวคาสเซิ่ลคว้าชัย  4-2

  1. เจ้าบ้านโยนทิ้งโอกาสทอง

ภาพรวมต้องบอกว่าฟอร์มการเล่น อาร์เซน่อล เหนือกว่าทาง ลิเวอร์พูลมาก มีโอกาศทำประตูตั้งแต่ครึ่งแรกอยู่หลายครั้ง แต่ก็พลาดเองไม่สามารถเจาะตาข่ายชิงประตูมาครอง ยังไม่ส่งผลอะไรมากกับทาง ลิเวอร์พูล แม้รูปเกมจะเป็นรองปืนใหญ่อยู่หลายขุม ด้านสตาร์ทีมชาติเยอรมันที่มีโอกาสซัดทำประตูแต่ยิงไม่มีน้ำหนักพอขาดความมั่นใจ ฉวดตาข่ายหงส์แดงไปซะได้ ไม่พอเพียงเท่านั้น รูปเกมอาร์เซนอลน่าจะเก็บมาได้สักลูกสองลูก แต่ก็เกือบเสียประตูให้กับทีมเยือนลิเวอร์พูลที่บุกในช่วงท้ายเกมครึ่งแรก จากกัปตันทีม เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แต่บอลกระทบคานเข้าอย่างจัง หวุดหวิดเสียประตูให้หงส์

  หมดเวลาครึ่งแรก เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รายงานสถิติ อาร์เซนอล เล่นได้อย่างน่าพอใจในนัดนี้เพียงแค่ไม่มีประตูเกิดขึ้นในเกมนี้เท่านั้น มีการครองบอลที่เหนือกว่าลิเวอร์พูล 53:47% และทำการยิงประตูได้ถึง 13 ครั้ง เข้ากรอบอยู่ทั้งหมด 5 ครั้ง ส่วนทางด้านทีมเยือนมีโอกาสเพียง 2 ครั้ง และไม่เข้ากรอบ ถึงอย่างไร จบเกมครึ่งแรก ทัพของคล็อปป์ ยันเสมอ 0-0 ไปได้

  1. คล็อปป์ โชว์เหนืออีกครั้ง

แม้ว่าในช่วงครึ่งแรก ลิเวอร์พูล จะเป็นรองทางอาร์เซนอลอยู่มาก  แต่ หัวเรือ คล็อปป์ ก็โชว์กึ๋นความเป็นยอดกุนซือ ด้วยการแก้เกมในช่วง 45 นาทีหลัง ส่งผลให้ ฟอร์มการเล่นดีขึ้นตามลำดับอย่างเห็นได้ชัด และสร้างปัญหาให้ทางเจ้าบ้านอยู่ไม่น้อยในช่วงครึ่งหลัง ส่วนสำคัญอีกเรื่อง คือ คล็อปป์ เปลี่ยนเอา เอลเลียตต์ กับ เคอร์ติส โจนส์ ออกมาในช่วง 15 นาทีที่เหลือท้ายเกม และเลือกส่ง คอเนอร์ แบรดลีย์ กับ บ๊อบบี้ คลาร์ก สองนักแข้งดาวรุ่งลงสนาม โดยไม่สะทกสะท้านใดๆแม้แต่น้อยว่าไม่ได้เล่นในแอนฟิลด์ แถมทางทีมเจ้าบ้านปืนใหญ่ ยังมีเกมที่ข่มขู่อยู่อีก

  จนสุดท้ายแล้ว การตัดสินใจของ คล็อปป์ ก็ไม่ทำให้หงส์แดงผิดหวัง ลิเวอร์พูลโต้กลับด้วยอาวุธเด็ดตรงนี้ ปิดบิลได้ 1 เม็ดจาก หลุยส์ ดิอาซ และโดนทุบตาข่ายเพิ่มอีก 1 ประตู ส่งผลให้ปืนใหญ่ร่วงคารัง

  จบเกม 90 นาที รายงานสถิติ ลิเวอร์พูล พลิกเกมจากครึ่งแรกดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ด้วยการที่ลดรูปเกมที่เป็นรองอยู่ให้ดีขึ้นได้ แถมยังสามารถครองบอลที่ต่ำกว่า 54:46% โอกาสการทำประตู น้อยกว่า 18:12 ครั้ง ทั้งส่งบอลเข้ากรอบได้เป็นรอง 5:3 ครั้ง แต่สิ่งที่ลิเวอร์พูลเหนือกว่าก็คือเกมเล่นที่เด็ดขาด และเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากของเกมนักแข้ง โดยเฉพาะทีมที่ต้องการชัยชนะหรือประสบความสำเร็จในการคว้าถ้วยรางวัลมาครอง

  1. กองหน้าคือคำตอบ

  หลังพ่ายให้กับ ‘หงส์แดงลิเวอร์พูล’ในเกม เอฟเอคัพ รอบ3 อย่างเจ็บแสบ ผลงานในช่วงหลังเป็นที่น่าเศร้าใจสำหรับอาร์เซนอล จากที่ 7 เกมหลังทุกรายการ ‘ปืนใหญ่’คว้าชัยชนะเพียงนัดเดียวเท่านั้น ในเกมลีกทีมเหย้า อัดไบรท์ตัน 2-0 ชัดเลยกับสถานการณ์ของ’ปืนใหญ่ ที่ค่อนข้างย่ำแย่จากนัดพ่าย3เกมรวด และคาดไม่ได้เช่นกันว่าสถิติอันไม่น่าพึ่งพอใจนี้จะหยุดที่เกมไหน

  อย่างไรก็ตาม จอมทัพอาร์เตต้า ยังมีโอกาสที่จะเอาคืนแค้น คล็อปป์  บนเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในเกมลีก วันที่ 4 ก.พ นี้ และแน่นอนความมั่นใจและความฮึกเหิมตกมาอยู่กับหงส์แดง แบบไม่ต้องสืบ ทั้งๆที่บุกมาเยือนถึงถิ่นปืนใหญ่ ในเกม เอฟเอคัพ แบบไม่เต็มทีม มีตัวเจ็บ ขาดตัวหลักไปก็เยอะ แต่ทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์ ก็ต้าน อาร์เซน่อล กดไป 2 เม็ด เอาชนะเจ้าบ้าน ได้สำเร็จ

  ในเมื่อภาพรวมเกมของอาร์เซนอล มีแนวโน้มแผ่วปลายเกาะอยู่ เป็นฤดูกาลที่3 ติดต่อกัน ก็น่าเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย ว่าพวกเขาจะไม่มีถ้วยติดมืออีกหรือเปล่า รวมทั้ง สถิติสำหรับ พรีเมียร์ลีก

   สืบต่อหากอาร์เซนอลไม่คิดที่จะซื้อตัวกองหน้ามาร่วมทัพในเดือนมกราคมนี้ อย่างที่เซียนกูรูหลายต่อหลายรายมองเป็นประเด็นเดียวกัน ว่าทัพของอาร์เตต้า มีจุดที่ต้องแก้ไขคือหน้าเป้าที่เชื่อมั่นได้ และควรที่จะจ่อล่าตัว ไอแวน โทนีย์ มาจาก เบรนท์ฟอร์ด งานนี้ ต้องติดตามกันต่อไป ลำดับของ พรีเมียร์ลีก ว่าทางอาร์เซนอล จะแก้ไขจุดบกพร่องและปัญหาที่ว่าไปในแนวทางไหน ก่อนที่ตลาดฤดูหนาวจะปิด

 

Tags : , , ,